ท่านเคยสังเกตไหมว่าในฤดูฝน ทำไมเวลาที่เราเปิดบานหน้าต่างมักจะมีปัญหาเปิดไม่ค่อยออกหรือเปิดแล้วปิดไม่ได้?
คำตอบ ก็คือจากการขยายตัวของวงกบและบานหน้าต่างไม่เท่ากันนั่นเอง และสาเหตุของการขยายหรือหดตัวเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงความชื้นในเนื้อไม้นั่นเอง
ปัญหาเกี่ยวกับความชื้นในเนื้อไม้ของทุกผลิตภัณฑ์ไม้มักเกิดจากสาเหตุหลักๆคือ
1- ความชื้นในเนื้อไม้ จากขั้นตอนการผลิตในโรงงานหรือหลังจากการติดตั้ง ได้มีการควบคุมดีพอหรือไม่?
2 -การประกอบหรือติดตั้งได้กระทำอย่างถูกต้องหรือไม่?
3- การเปลี่ยนแปลงความชื้นในไม้หลังการใช้งาน
ซึ่งในบทความนี้ทำให้ท่านเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
ผู้ที่คิดจะใช้ผลิตภัณฑ์ไม้จึงควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับความชื้นในเนื้อไม้ว่าจะมีผลต่อพื้นผลิตภัณฑ์ไม้อย่างไร โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ไม้จะต้องผ่านการอบเพื่อให้ได้ความชื้นในเนื้อไม้ที่เหมาะสมและหลังจากกระบวนการผลิตไปจนถึงมือผู้ใช้งานความชื้นในผลิตภัณฑ์ไม้จะเพิ่มขึ้น อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม้มีการขยายตัว ผู้ใช้งานจึงควรควบคุมไม่ให้ความชื้นในไม้เปลี่ยนแปลงมากเกินไปเท่าที่สามารถทำได้ เช่นหากเป็นการปูพื้นไม้บนพื้นคอนกรีตควรทิ้งพื้นคอนกรีตไว้ระยะหนึ่งเพื่อไม่ให้ความชื้นจากพื้นคอนกรีตทำให้มีผลกับพื้นไม้ที่จะติดตั้งหรืออาจปูวัสดุป้องกันความชื้นเช่นแผ่นโฟม เป็นต้น หรือหลีกเลี่ยงการนำผลิตภัณฑ์ไม้ไปใช้งานในลักษณะที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงความชื้นมากๆเช่นการนำไม้เนื้ออ่อนไปใช้งานกลางแจ้งโดยไม่มีการป้องกันการเปลี่ยนแปลงความชื้นในเนื้อไม้ เช่นการทาWood oil หรือการเลือกชนิดไม้ให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง เป็นต้น
ทำไมจึงต้องมีการอบไม้ก่อนนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ตามธรรมชาติไม้ที่ยังยืนต้นอยู่จะมีน้ำอยู่ในเซลล์เพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ ซึ่งน้ำหนักของน้ำในเซลล์เหล่านี้อาจมากกว่าน้ำหนักของตัวเซลล์ไม้ด้วยซ้ำ หลังจากมีการตัดไม้มาใช้งาน ไม้จะเริ่มสูญเสียน้ำออกมาจากเซลล์โดยจะมีการคายน้ำออกมาอย่างรวดเร็วในช่วงแรกๆและค่อยๆลดอัตราการคายน้ำลงซึ่งหากปล่อยให้ไม้แห้งเองตามธรรมชาติอาจต้องใช้เวลานานมากกว่าจะนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ไม้ ซึ่งการหดตัวนี้จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อไม้มีความชื้นประมาณ25-30% และจะยังคงหดตัวเรื่อยไปจนไม้ไม่มีความชื้นในเนื้อไม้เลย(ความชื้น=0%)
ดังนั้นในอุตสาหกรรมไม้ที่ได้มาตรฐานจึงนิยมการนำไม้มาอบเพื่อ
1- ให้ได้ไม้ที่มีความชื้นใกล้เคียงกันที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการหดตัวที่ไม่เท่ากัน
2- เพื่อประหยัดเวลาในการปล่อยให้ไม้แห้งลงเองตามธรรมชาติ
3- เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความสวยงามในขั้นตอนการทำสี
ปัญหาของความชื้นในผลิตภัณฑ์ไม้ส่วนใหญ่นอกเหนือจากการประกอบหรือขึ้นรูปจึงเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการอบไม้นี่เอง การอบไม่ที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้ไม้มีลักษณะแข็งนอกหรือแข็งใน หากเปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนการย่างเนื้อที่สุกแต่ข้างนอก ดังนั้นในเนื้อไม้จะยังมีความเค้น(Stress)อยู่ เมื่อนำไปประกอบหรือผลิตก็ย่อมเกิดปัญหาต่อผลิตภัณฑ์ไม้นั้นๆ โดยเฉพาะพื้นไม้หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับอากาศเช่นเฟอร์นิเจอร์สนาม เป็นต้น
ดังนั้น หากต้องการผลิตภัณฑ์ไม้ที่ได้มาตรฐาน ควรสอบถามจากผู้ผลิตหรือจำหน่ายเกี่ยวกับขั้นตอนที่ใช้ในการอบไม้ และหากเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงการยอมจ่ายแพงกว่าอาจคุ้มค่ากว่าการเลือกโดยใช้ราคาหรือรูปลักษณ์อย่างเดียวในการตัดสินใจ